อัตราต่อรองมวยแบบ HDP คืออะไร รู้ไว้ก่อนแทง ช่วยลดความเสี่ยง

อัตราต่อรองมวยแบบ HDP ย่อมาจาก Handicap หรือแฮนดิแคป ก็คือ การต่อรองแต้มกันระหว่างนักมวยสองฝ่ายเพื่อให้การแทงมีความสมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการเจอกันระหว่าง มวยเหนือกว่า กับ มวยเป็นรอง ถ้าไม่มี HDP การแทงก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะใครๆก็เทไปทางมวยเก่ง ตัวอย่างง่ายๆ สมมติว่า นักมวย A เก่งมาก สถิติชนะยาวเป็นหางว่าว นักมวย B พึ่งขึ้นเวที ยังไม่เข้าที่ ถ้าไม่มี HDP คนก็จะแห่ไปแทงนักมวย A จนเว็บเจ๊งแน่ๆ HDP จึงเข้ามาช่วยบาลานซ์ โดยการต่อแต้มให้นักมวย B เพื่อให้การแทงสนุกและยุติธรรมขึ้น เช่น นักมวย A ต้องชนะเกิน 3 ยกถึงจะถือว่า “กินเต็ม” ไม่งั้นอาจแค่เจ๊า หรือแพ้พนันไปเลย เข้าใจหลักการนี้ไว้ดีๆ จะช่วยให้เรารู้ว่าควรแทงฝั่งไหน ไม่ใช่ดูแค่ใครชนะ เพราะในการแทงแบบ HDP คนที่ ชนะบนเวที อาจไม่ได้ ชนะในบิล เสมอไป
สิ่งที่มือใหม่ควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ HDP
- ไม่ใช่ทุกคู่จะมี HDP บางคู่สูสี ไม่มีการต่อรอง
- HDP ในมวยจะต่างจาก HDP ฟุตบอล เพราะขึ้นอยู่กับผลแต้ม ยก และฟอร์ม
- ต้องอ่านบิลให้ขาดว่า HDP เท่าไหร่ และหมายถึงอะไร เช่น -1.5 / +2.0
ทำไมการแทงแบบ HDP ถึงได้รับความนิยมในมวยออนไลน์?
การเดิมพันไม่ได้หยุดแค่การเลือกฝ่ายที่คิดว่าจะชนะ แต่ยังพัฒนาไปถึงจุดที่ต้องคำนวณความได้เปรียบเสียเปรียบของนักมวยแต่ละคน ซึ่งรูปแบบ HDP หรือแฮนดิแคปเข้ามามีบทบาทตรงนี้อย่างชัดเจน เพราะมันช่วยให้การเดิมพันไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่งมากเกินไป และสามารถทำให้ราคาน่าสนใจขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาเจอคู่มวยที่ฝีมือต่างกันมาก ระบบ HDP จะเข้ามาช่วยบาลานซ์ให้มีโอกาสเล่นทั้งสองฝั่ง
อีกเหตุผลที่ทำให้คนแห่เล่นแบบ HDP เพราะมัน “ไม่จบที่ผลชนะอย่างเดียว” นั่นหมายความว่า แม้จะแพ้ แต่ถ้าแพ้ไม่เกินแต้มต่อ ก็ยังได้เงินอยู่ ตรงนี้สำคัญมาก เพราะในมวย บางทีฝั่งรองไม่ใช่ไม่มีของ บางครั้งแพ้แต่ก็ไม่ขาด เลยเห็นว่าเซียนมวยหลายคนชอบเล่นรอง เพราะรู้ว่าคู่มวยนั้นมีแต้มต่อเยอะ แล้วรองก็มีโอกาส “แพ้กินราคา” ได้ ซึ่งถ้าเป็นการแทงแบบ Moneyline หรือแบบผลชนะอย่างเดียว ก็คือเสียเต็มๆ ไม่มีลุ้นอะไรเลย
วิธีดูอัตราต่อรอง HDP ในเว็บมวยออนไลน์ UFABET
เข้าไปในหน้า แทงมวย ของ UFABET จะเห็นคู่มวยแต่ละคู่ พร้อมชื่อของนักมวยสองฝั่ง โดยมักจะมีการแบ่งฝั่งแดง-น้ำเงินชัดเจน ใต้ชื่อจะมีตัวเลขอัตราต่อรอง HDP โผล่มาให้เห็น เช่น แดง -2.5 / น้ำเงิน +2.5 อันนี้แปลตรงตัวเลยว่า ฝั่งแดงเป็นฝ่ายต่อ 2.5 ส่วนฝั่งน้ำเงินเป็นฝ่ายรอง การแทงแดงให้ได้เงิน ต้องชนะขาดเกิน 2.5 ยก หรือชนะด้วยแต้มที่แตกต่างมากพอ เช่น ชนะน็อกภายใน 3 ยก หรือชนะด้วยคะแนนขาดลอย ในขณะที่ฝั่งน้ำเงินซึ่งเป็นฝ่ายรอง หากแพ้แบบเฉียดฉิว หรือแพ้ไม่ขาดมาก เช่น แพ้คะแนนแค่ไม่กี่ยก หรือยื้อได้จนครบยกแบบไม่โดนไล่ ก็ถือว่าได้กินราคาไปเลย แม้จะแพ้ในเกมจริง แต่ชนะในเรื่องการเดิมพัน ตรงนี้เองที่เป็นเสน่ห์ของ HDP เพราะมันเปิดโอกาสให้ “แพ้แบบได้ตังค์” ได้จริงๆ
ข้อดี-ข้อเสียของการแทงมวยแบบ HDP
ข้อแรกที่ชัดเจนเลยคือ มันเพิ่มความแฟร์ในการเดิมพัน เพราะการที่มีแต้มต่อเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้มวยที่เก่งกว่าต้อง “พิสูจน์ตัวเองมากขึ้น” ไม่ใช่แค่ชนะ แต่ต้องชนะให้ขาด ส่วนฝั่งรองก็มีโอกาสลุ้นว่าแพ้แบบไม่เกินแต้มต่อก็ยังได้เงิน
อีกหนึ่งจุดเด่นของ HDP คือความยืดหยุ่น คนเล่นสามารถ “เลือกแนวแทงได้ตามสถานการณ์” บางวันเจอคู่มวยที่สูสีกัน ก็อาจเลือกแทงฝั่งที่ฟอร์มดีในรอบล่าสุด แต่ถ้าเจอคู่ที่ห่างชั้นกันชัดๆ แล้วฝั่งต่อแต้มเยอะเกินไป บางคนอาจมองเห็นช่องแทงรอง เพราะคิดว่าแพ้แต่ไม่ถึงแต้มต่อแน่ แบบนี้ก็กลายเป็นช่องให้ทำกำไรได้
ส่วนข้อเสียก็มีให้ระวัง โดยเฉพาะกับมือใหม่ที่ยังดูแต้มต่อไม่เป็น อาจตีความผิดว่าต่อ 3.5 แปลว่าอะไร แล้วเผลอแทงข้างที่ดูเหนือกว่าทั้งที่ต้องชนะแบบขาดเท่านั้นถึงจะได้เงิน อีกจุดคือการที่ราคามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าไม่เช็คก่อนแทงหรือดูข้อมูลประกอบให้ดี อาจทำให้พลาดจังหวะดีๆ ไปได้ง่ายๆ
เทคนิควิเคราะห์ก่อนเลือกแทงมวยแบบ HDP
หนึ่งในเทคนิคที่ควรใช้คือ ย้อนดูสถิติย้อนหลัง ไม่ใช่แค่ฟอร์มล่าสุด แต่ดูสไตล์การชกของแต่ละคน เช่น นักมวยที่ชอบเล่นเชิง มักไม่ชนะขาด ก็อาจไม่เหมาะจะไปแทงแบบมวยต่อที่ต้องลุ้นให้ชนะเยอะๆ แต่ถ้าเป็นนักชกที่บุกดุดัน ชนะน็อกบ่อย แบบนี้แทงต่อก็น่าสนใจ เพราะมีโอกาสเก็บแต้มได้ขาดตามที่ HDP ต้องการ การดูแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยกรองคู่ที่เสี่ยงออกไปได้เยอะมาก
อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือ “เปรียบเทียบราคาเปิด” จากหลายเว็บ โดยเฉพาะถ้าเรามีหลายบัญชีหรือใช้หลายแพลตฟอร์ม บางทีราคามวยต่ออาจอยู่ที่ -1.0 ในเว็บหนึ่ง แต่ไปอยู่ที่ -0.5 ในอีกเว็บ แบบนี้ก็จะมีจังหวะให้เลือกแทงในเว็บที่ได้เปรียบกว่า โดยไม่ต้องรอให้ราคาเปลี่ยนก็ได้ เทคนิคนี้เรียกว่า “หาช่องว่างของตลาด” และมักใช้โดยคนที่เล่นเป็นอาชีพ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ การอ่านกระแสตลาด ซึ่งฟังดูเหมือนเรื่องยาก แต่จริงๆ ก็คือดูว่าคนส่วนใหญ่เทไปทางไหน แล้วเราลองวิเคราะห์กลับด้าน เช่น ถ้าเห็นว่ามวยต่อราคาขยับเร็วเกินไป อาจเกิดจากการปั่นราคาก็ได้ แบบนี้เราต้องไม่ตามกระแสทันที ควรรอให้ราคานิ่งก่อน หรือเช็คข่าวประกอบด้วย เช่น นักมวยมีอาการบาดเจ็บก่อนขึ้นชก แต่คนยังไม่รู้ทั่วกัน แบบนี้เราจะได้เปรียบอย่างมาก