สูตรเดินเงินแบบทบไม้ คืออะไร ใช้กับแทงมวยได้ยังไง

สูตรเดินเงินแบบทบไม้ เป็นเทคนิคยอดนิยมที่หลายคนน่าจะคุ้นหูจากการเล่นบาคาร่า หรือพวกเกมคาสิโนอื่นๆ แต่รู้มั้ยว่า…สูตรนี้มันใช้กับการแทงมวยได้เหมือนกัน! ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย มวยสากล หรือมวยยกต่อยก ก็เอาสูตรนี้ไปประยุกต์ใช้ได้ไม่ต่างจากการเล่นไพ่เลย
ทบไม้คืออะไร?
“ทบไม้” หรือ “Martingale” คือการเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าเมื่อเราแทงเสีย สมมติว่าเราแทง 100 แล้วเสีย ตาต่อไปก็แทง 200 ถ้าเสียอีกก็เพิ่มเป็น 400 แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะ พอชนะก็จะได้ทุนคืนพร้อมกำไรหนึ่งหน่วย แล้วค่อยกลับมาเริ่มที่ 100 ใหม่ แนวคิดคือ ถ้าท้ายที่สุดยังไงต้องมีชนะสักครั้ง และเมื่อชนะ เราจะถอนทุนกลับมาได้หมดพร้อมกำไรเล็กๆ น้อยๆ แบบไม่เจ็บตัว
ทำไมใช้กับแทงมวยได้?
เพราะการ แทงมวย โดยเฉพาะแบบมวยยกต่อยกหรือแทงระหว่างยก มีความยืดหยุ่นสูงมาก เช่น เราเลือกข้างใดข้างหนึ่งไว้ตั้งแต่ต้น เช่น เชียร์มุมน้ำเงิน เราสามารถไล่แทงในยกต่อๆ ไปได้เรื่อยๆ หากมั่นใจว่าคู่นี้ยังไงก็ชนะ ยิ่งช่วงท้ายมวยแรงตกหรือคะแนนเริ่มชัด ก็เหมาะแก่การทบไม้เพื่อดึงทุนกลับ
หรือถ้าเล่นมวยเดี่ยวรายวัน เราก็อาจเลือกมวยคู่ที่มั่นใจสุดไว้ 1 คู่ต่อวัน แล้วใช้สูตรทบไม้หากวันก่อนหน้านั้นแทงเสีย เพื่อเรียกทุนคืนในวันถัดไป
ข้อดีของสูตรทบไม้
- เรียกทุนคืนเร็ว: ไม่ต้องแทงหลายคู่ให้ปวดหัว แทงเสียแค่ไม่กี่ครั้งก็เอาคืนได้ถ้าแทงถูกตาสุดท้าย
- ไม่ต้องวิเคราะห์เยอะ: ถ้ามั่นใจในคู่เดียว แค่จัดลำดับเดินเงินให้ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องปัจจัยอื่นมาก
- ช่วยเพิ่มกำไร: เพราะทบแต่ละครั้งจะมีหน่วยกำไรติดมาด้วย ถ้าเดินถูกทางไม่พลาดตอนต้นๆ จะได้มากกว่าการเดินเงินแบบธรรมดา
ข้อควรระวัง
อย่าเห็นว่าทบแล้วดูง่าย สบายๆ เพราะถ้าแพ้ติดกันหลายไม้ เงินก็จะบานปลายได้ เช่น เริ่มที่ 100 ถ้าแพ้ 5 ไม้ เงินจะเป็น 100 + 200 + 400 + 800 + 1600 = 3100 บาทแล้ว ดังนั้นต้องคุมงบให้ดี และเลือกจังหวะใช้สูตรนี้ให้เหมาะกับสถานการณ์ ไม่ใช่สาดมั่วแบบไม่วางแผน
เทคนิคเดินเงินแบบทบไม้ ให้ปลอดภัย ไม่เสียง่าย
แม้ว่าสูตรทบไม้จะดูเหมือนง่ายๆ ใครก็ใช้ได้ แต่ถ้าไม่มีเทคนิคในการควบคุม มันจะกลายเป็นสูตรเจ๊งไม้ ได้เลย เพราะถ้าแพ้ยาวๆ แล้วงบไม่พอ ก็จบทันที มาดูเทคนิคเดินเงินให้ปลอดภัยแบบสายมวยกันเลยดีกว่า
1. อย่าเริ่มด้วยเงินเยอะเกิน
จุดเริ่มต้นของการทบไม้ควรเป็นยอดเล็กๆ ที่คุณรับไหว เช่น 50, 100 หรือ 200 บาท ขึ้นอยู่กับทุนทั้งหมดที่คุณมี เพราะถ้าคุณเริ่มที่ 1,000 แล้วเสีย 4 ไม้ติดกัน ทุนจะปลิวเกือบหมดทันที คำแนะนำคือ ควรกะไว้เผื่อได้ 5-6 ไม้ก่อนหมดงบ อย่างน้อยจะยังมีทางเอาคืนได้
2. วางแผนจำนวนไม้ล่วงหน้า
สูตรทบไม้จะเวิร์ก ก็ต่อเมื่อคุณวางแผนจำนวนไม้ล่วงหน้าแล้ว เช่น ถ้ามีทุน 3,100 บาท อาจใช้เดินไม้แบบ 100 > 200 > 400 > 800 > 1600 เผื่อไว้แค่ 5 ไม้พอ อย่าทบเกินกว่านั้นโดยไม่มีทุนรองรับ เพราะจะยิ่งขาดทุนหนักถ้าแพ้หมด
3. ใช้เฉพาะเวลามั่นใจเท่านั้น
การทบไม้ไม่ควรใช้กับทุกคู่หรือทุกยก อย่าหวังว่าจะพึ่งแค่สูตรอย่างเดียว ต้องใช้ควบคู่กับการวิเคราะห์ด้วย เช่น ถ้ามวยมุมแดงฟอร์มดีตั้งแต่ต้น ยก 1 ยก 2 ยังไล่กดไม่เข้า ให้ใช้ไม้ทบตอนยก 3 ยก 4 เพราะโอกาสทำแต้มกลับเริ่มสูง ถ้ามั่นใจจังหวะจริงๆ ค่อยทบไม้ ไม่ใช่เจอใครก็สาดเงินใส่
4. ตั้งเป้าหมายต่อรอบให้ชัด
เช่น วันนี้คุณจะเล่นแค่ 5 ไม้ หากแพ้ครบตามจำนวนนี้ให้หยุด อย่าพยายาม “เอาคืน” แบบไม่มีแผน เพราะจะกลายเป็นการเทหมดหน้าตัก หรือถ้าชนะไม้ใดไม้หนึ่งแล้วได้ทุนคืนพร้อมกำไร ก็ควรหยุดแล้วกลับไปเริ่มใหม่ ไม่จำเป็นต้องทบต่อให้เสี่ยงเปล่าๆ
5. จับคู่สูตรอื่นเข้าช่วย
ทบไม้ไม่จำเป็นต้องเดี่ยวๆ เสมอไป ลองเอามารวมกับสูตรวิเคราะห์อื่น เช่น วิเคราะห์คู่มวยที่เน้นพลังปลาย คุมระยะ ครบเครื่อง หรือตัวเต็งที่เปิดราคามาสวยงาม พอเจอคู่ที่เข้าเงื่อนไขแบบนี้ค่อยเดินไม้เพิ่มความมั่นใจเข้าไป จะทำให้การเดินเงินดูเป็นมืออาชีพขึ้น ไม่ใช่แค่พึ่งดวง
6. ใช้บันทึกการแทงย้อนหลัง
บันทึกว่าคู่ไหนเราใช้สูตรนี้ไปแล้ว และผลเป็นยังไง จะช่วยให้คุณรู้ว่ากำลังเดินอยู่ไม้ที่เท่าไหร่ ยังมีงบพอสำหรับการทบอีกหรือไม่ แถมยังช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มของแต่ละคู่ได้ดีขึ้นด้วย
เปรียบเทียบ ทบไม้ VS เดินเงินแบบคงที่
บางคนอาจจะงงว่า แล้วเราควรเลือกเดินเงินแบบไหนดี? ทบไม้ดี หรือคงที่ไปเลยจะเซฟกว่า? มาดูเปรียบเทียบแบบตรงๆ ให้เห็นภาพชัดๆ กันไปเลยดีกว่า
เดินเงินแบบคงที่คืออะไร?
คือการวางเงินเท่ากันทุกไม้ เช่น แทง 100 ทุกครั้ง ไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็ยังแทงเท่าเดิม วิธีนี้จะทำให้คุมงบได้ง่าย ไม่ต้องเครียดมากเวลาเสีย แถมเหมาะกับสายเล่นยาวๆ เน้นลุ้นเรื่อยๆ โดยไม่ต้องทบให้ปวดใจ
ความต่างที่ชัดเจน
ปัจจัย | ทบไม้ | คงที่ |
ความเสี่ยง | สูงมากถ้าแพ้ต่อเนื่อง | ต่ำ เสียเท่าเดิมทุกไม้ |
การเรียกทุนคืน | เร็วทันใจถ้าชนะไม้หลัง | ต้องชนะหลายไม้ถึงจะคืนทุน |
ความเครียด | สูง เพราะเงินทบเพิ่มเรื่อยๆ | น้อย เล่นสบาย ไม่ต้องคำนวณมาก |
ทุนเริ่มต้น | ต้องเตรียมเยอะ | เริ่มน้อยได้ เล่นยาวๆ ได้ |
เหมาะกับใคร | คนทุนหนา ใจนิ่ง | มือใหม่ งบน้อย หรือเล่นชิล |
ทบไม้เหมาะกับสถานการณ์แบบไหน?
- เมื่อต้องการ ถอนทุนคืนไว และมั่นใจว่ารอบนี้ยังไงก็เข้า
- มีทุนพอสมควร และ รับความเสี่ยงได้
- ใช้เฉพาะในแมตช์ที่คุณ วิเคราะห์แน่นๆ
เดินเงินคงที่เหมาะกับใคร?
- มือใหม่หัดแทง ยังไม่ชินกับการวิเคราะห์หรือกล้าเสี่ยงมาก
- คนที่เล่นเพื่อความสนุก ไม่ได้จริงจังหวังรวยเร็ว
- คนที่มีงบน้อย และอยาก เล่นได้นาน ไม่กดดัน
ตัวอย่างการใช้สูตรเดินเงินทบไม้กับการแทงมวย
เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ เรามาดูตัวอย่างจริงว่า ถ้าเอาสูตรทบไม้มาลงสนามแทงมวยจะหน้าตาเป็นยังไง พร้อมทั้งชี้ให้เห็นทั้งข้อดีข้อเสีย และช่วงที่ควรเล่นหรือไม่ควรเล่น
ตัวอย่างสมมติ: แทงมวยยกต่อยก
- ไฟต์นี้มี 5 ยก
- ผู้เล่นวางแผนใช้สูตรทบไม้เริ่มต้นที่ 100 บาท
- เลือกแทงข้างนักมวยแดง เพราะดูฟอร์มดีกว่า
ยก | เงินเดิมพัน | ผลลัพธ์ | กำไร/ขาดทุนสะสม |
1 | 100 บาท | แพ้ | -100 บาท |
2 | 200 บาท | แพ้ | -300 บาท |
3 | 400 บาท | แพ้ | -700 บาท |
4 | 800 บาท | ชนะ | +100 บาท |
5 | ไม่แทง (จบแล้ว) | – | +100 บาท |
จะเห็นว่าแม้จะแพ้ 3 ไม้แรกติดกัน แต่พอชนะในไม้ที่ 4 ก็ได้ทุนคืนหมด พร้อมกำไร 1 หน่วย ซึ่งคือเป้าหมายของสูตรนี้เลย
ข้อดีของการแทงมวยยกต่อยกด้วยสูตรทบไม้
- ได้รู้ผลเร็ว ไม่ต้องรอจนจบไฟต์
- ใช้โอกาสแก้มือได้ทันในยกถัดไป
- ถ้าอ่านเกมเก่ง มองจังหวะได้แม่น จะปั้นกำไรได้เรื่อยๆ
ข้อเสีย
- ต้องใช้ทุนสำรองเยอะ ถ้าแพ้ติดกันหลายไม้
- ถ้าเจอคู่ที่สูสี หรือมีฟอร์มสวิงแรง อาจทำให้เสียต่อเนื่อง
- คนที่ควบคุมตัวเองไม่เก่ง จะติดลูปทบแบบไม่รู้จบ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- อย่าเล่นแบบหัวร้อน ถ้าแพ้ 3 ไม้ติด ควรหยุดพักก่อน
- ถ้าเจอคู่ที่ดูเกมไม่ออก ให้ข้ามไฟต์นั้นไปเลย อย่าฝืนใช้สูตร
- เล่นแบบมีแผน มีเป้าหมาย ไม่ใช่เล่นเพื่อเอาคืนแบบไม่ลืมหูลืมตา